The Evil Within

 

ด้วยฝีมือการควบคุมการผลิตของ “มิคามิชินจิ” ผู้ให้กำเนิด Biohazard หรือ Resident Evil อันลือลั่น หลังจากเฮียมิคามิแกถูกอัญเชิญออกจากบ. Capcom ด้วยข้อหา “ทัศนคติการทำเกมที่ไม่ตรงกันของผู้บริหาร และผู้สร้างเกม” ทำให้เฮียแกออกไปทำเกมในแนวที่แกอยากทำ กับค่ายที่ตอบสนอง Need แกได้ อย่างค่าย Bethesda Softworks ที่มีผลงานอย่าง Fallout และ Skyrim (ผู้ให้กำเนิดคำว่า “Fus ro Dahhh!!”อันโด่งดัง) และก็สมใจอยากละครับ เพราะเกมที่เฮียมิคามิทำออกมาให้ค่ายนี้ ถือว่า “ปล่อยของ และความอัดอั้นแบบจัดเต็ม!” กับเกมที่มีชื่อว่า “The Evil Within” ที่ถูกพัตนามาตั้งแต่ปี2012 เกมนี้แหละครับ



เรื่องย่อ



นักสืบเซบาสเตียน คาสเตลาโน่ ได้รับแจ้งเหตุการฆาตกรรมหมูในโรงพยาบาล จึงรีบรุดเข้าไปดูที่เกิดเหตุ ปรากฎว่าผู้คนที่อยู่ในโรงพยาบาลต่างล้มตายกันถ้วนหน้า คุณนักสืบจึงไปตรวจดูที่กล้องวงจรปิด ก็ได้พบกับปีศาจสุดสยองที่หายตัวไปมา ไล่ปาดคอเหยื่อทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น และมันก็พบตัวคุณนักสืบผ่านกล้องวงจรปิดจนได้ นักสืบเซบาสเตียนโดนเล่นงานและหมดสติไป และตื่นขึ้นมาในส่วนลึกของโรงโรงพยาบาลที่กลายสภาพเป็นโรงเชือดที่มีศพคนมากมายถูกแขวนอยู่ เขาพยายามหลบหนีออกจากโรงพยาบาลได้สำเร็จ และเมื่อกลับสู่โลกภายนอกก็พบว่าโลกทั้งหมดได้พังย่อยยับลงแล้ว ผู้คนล้มตาย บ้านเรื่อนถล่ม แผ่นดินแยกออกจากกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นักสืบเซบาสเตียนพยายามขับรถหลบหนีออกจากเมืองนี้อย่างลำบากและประสบอุบัติเหตุขับรถตกหน้าผา



นักสืบเซบาสเตียน รู้สึกตัวอีกครั้ง พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีบรรยากาศวังเวงชอบกล และนางพยาบาลที่เข้ามาดูแลเขา ก็ดูท่าทางแปลกๆ ขณะที่กำลังคิดว่าจะได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ กลับกลายเป็นว่าถูกจับให้ไปเป็นหนูทดลองผูกติดกับเก้าอี้ และนั่นคือการอัพเกรดสมองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับคุณนักสืบนั่นเอง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าเรื่องที่โดนจับไปทดลองนั่นเป็นแค่ฝันไป ในโลกความเป็นจริง เขาขับรถตกหน้าผาแต่รอดชีวิตมาได้



หลังจากรอดชีวิต นักสืบเซบาสเตียนต้องหาทางเอาชีวิตรอดต่อไป ซึ่งโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนล้มตายและกลายเป็นผีดิบ เขาต้องใช้ความสามารถในการหลบซ่อนตัว กับอาวุธที่มีอย่างจำกัดเพื่อผ่าวงล้อมผีดิบ พร้อมกับความสามารถใหม่ในการวาร์ปเข้าไปในโลกกระจกซึ่งก็คือโรงพยาบาลลึกลับที่เขาสามารถอัพเกรดสมองเพื่อเพิ่มความสามารถได้จากที่นี่ เพื่อให้พร้อมสำหรับการต่อสู้และหาทางรอดในโลกความเป็นจริง ที่สยดสยองราวกับฝันร้าย



Gameplay


ด้วยความที่เป็นเกมส์ที่มีต้นแบบมากจาก Resident Evil 4 5 6 การบังคับตัวละครจะมีความคล้ายกันมาก โดนเป็นมุมมองเกมส์ยิงบุคคลที่ 3 ที่เห็นตัวละคนที่เราบังคับจากด้านหลัง สามารถติดตั้งอาวุธอุปกรณ์หลากหลายชนิดเป็นคีย์ลัดได้ แต่สิ่งที่แตกต่างจาก Resident Evil คือบรรยากาศที่เน้นความน่ากลัวและกดดันผู้เล่นมากกว่า เริ่มจากอาวุธอุปกรณ์ที่มีมาให้ใช้แบบจำกัดมาก ในช่วงแรกจะไม่มีการมาบู๊แหลกผ่าดงผีดิบแบบเกมส์ Action แน่นอน ตัวเกมส์บังคับให้เราค่อยๆย่องผ่านไปในจุดต่างๆแบบไม่ให้ผูงผีดิบรู้ตัว และต่อสู้ในเวลาที่จำเป็นเท่านั้น




บรรยากาศโดยรวมที่เน้นความมืด กับผีมากมายหลายชนิด นอกจากผูงผีดิบที่มีให้เห็นเกลื่อนเมือง ผู้เล่นจะได้พบกับผีอีกหลากหลายแบบที่การดีไซน์ทำออกมาได้หลอนสุดๆ เรียกได้ว่าผีตัวไหนที่เคยมีให้ดูในโรงหนัง ก็มีโผล่ให้เห็นในเกมส์นี้เกือบทั้งหมด ซึ่งบางทีก็ฆ่าไม่ตายด้วย วิธีที่จะจัดการผีพวกนี้ได้อย่างเด็ดขาดคือการจุดไฟเผาซะ นอกจากนั้นผู้เล่นยังจะได้พบกับอสูรกายหน้าตาสยอดสยองอีกหลากหลายสายพันธ์ สรุปเรียกได้ว่ารวมความสยองทุกรูปแบบไว้ในเกมส์นี้กันเลยทีเดียว




การอัพเกรดตัวละครสามารถทำได้ที่โลกกระจก โดยสามารถอัพเกรดได้ 3 อย่างคือ
Abilities - สำหรับเพิ่ม HP / เวลาในการวิ่ง / พลังโจมตีประชิด / อัตราการฟื้นฟู HP
Weapons - เพิ่มประสิทธิภาพอาวุธต่างๆที่เรามี เพิ่มความแรง / ระยะยิง / ความเร็วบรรจุกระสุน / จำนวนกระสุน
Stock - กระเป๋าสำหรับเก็บ กระสุน / ระเบิดมือ / เข็มฉีดยา / ไม้ขีดไฟ



Screenshot (โฉมหน้าบอสทุกตัว)
















Game Rank B (Score 70/100)

มันคือเกมส์ Resident Evil ภาคอัพเกรดความสยอง ที่มี Gameplay คล้ายต้นฉบับแต่เพิ่มผีหลากหลายแบบที่มีดีไซน์น่ากลัวสุดๆ กับบรรยากาศมืดๆ ชวนขนหัวลุก การเล่นในเกมส์ให้อารมณ์คล้าย The Last Of US คือช่วงแรกตัวละครทำอะไรไม่ค่อยได้ ต้องคอยหลบๆซ่อนๆอย่างเดียว พอช่วงหลังๆ ที่ความสามารถเริ่มมา อาวุธเริ่มมี ก็สามารถจะสู้กับผีได้ราวกับเป็น Chris Redfield จอมโหดจาก Resident Evil 5 เลย

ภาพในเกมส์ทำออกมาได้น่าผิดหวัง สำหรับคนเล่นบน PS4 XB1 อาจจะเซ็งหนักหน่อยเพราะภาพที่แสดงออกมาไม่สวยสมกับเป็นเครื่อง NextGen ซักเท่าไร ดูจะคล้ายภาพจากเครื่อง PS3 XB360 ซะด้วยซ้ำ มุมกล้องทำออกมาได้น่าอึดอัด ตัวละครบังจอไป 1 ใน 3 ของจอภาพ ทำให้วิศัยทัศน์ในการมองลดลงไปมาก ค่อนข้างอึดอัดเวลาเล่น ก็ไม่รู้ว่าผู้สร้างตั้งใจทำให้ออกมาอึดอัดแบบนี้หรือเปล่านะ

เนื้อเรื่องทำออกมาได้สนุกน่าติดตามมาก โดยเล่นกับความสับสนงุนงงในชีวิต ตกลงที่เรากำลังยืนอยู่นี้ มันคือโลกบ้าอะไรกันแน่ ไอเดียเนื้อเรื่องคล้ายๆกับ Matrix / Total recall / Inception แต่ย้ายมาดำเนินเรื่องในบรรยากาศสยองขวัญ โดยรวมก็เป็นเกมส์ที่สนุกครับคนชอบเรื่องผีต้องลองสัมผัสดู






Ending


ในฉากจบ ผู้แต่งหักมุมเนื้อเรื่องได้แบบเจ๋งสุดๆ ใครที่อยากโดนสปอย ลากเม้าส์ดูด้านล้างได้เลยจ้า

เรื่องราวทั้งหมดมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง ความจริงก็คือนักสืบเซบาสเตียนสลบไปตั้งแต่ดูกล้องวงจรปิด หลังจากนั้นก็ถูกจับไปทดลองสมอง เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงมโนภาพในสมองทั้งสิ้น